JETSETERลองไปหาซื้อมาฟังนะคะเท่าที่ขิมยืนฟังในงานและสบสายตากับหนุ่มๆ 4 คนนี่เพลงเขาโอเคเลยค่ะร้องเพราะดีค่ะ

มือกลองค่ะ....ชื่ออะไรกันอีกเนี่ย
มือเบสค่ะน่าร้ากกกก....ไม่รู้ชื่ออีกตามเคย
มือกีตาร์ค่ะไม่รู้ชื่ออีกเช่นเคย
Part II : NUDE

มือเบสค่ะน่าร้ากกกก....ไม่รู้ชื่ออีกตามเคย


ดารริน ภาษีผล ศันสนีย์ วงศ์วรเศรษฐ จุดนัดฝันของ Zyd Records “เหมือนกับว่าเราฝันอะไรไว้ แต่พอมาถึงแล้วเราเพิ่งรู้ว่าจริงๆ เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งมันก็เหนื่อยแต่ว่ามันก็มีความสุขขึ้นมาอีกระดับ อย่างนุ่นทำงาน นุ่นก็จะเป็นโปรดิวเซอร์ เราก็นั่งทำทุกๆ คืนแต่ว่ามันก็มีความสุขดี สนุกกับงานที่ทำ แล้วเราก็พยายามทำให้มันดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีหรือศิลปินที่ทำงานด้วยกันก็เหนื่อยกันทุกคนแต่ว่ามีความสุข” ว่ากันว่า การได้ลงมือทำอะไรสักอย่างตามความเชื่อของตัวเองนั้น ไม่ว่าสิ่งที่ทำลงไปจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นใดนั้น อาจไม่สำคัญเท่ากับการได้ลองถูกลองผิดด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นโลกแห่งความฝันด้วยแล้ว กลิ่นความฝันมักหอมหวาน และชวนให้ลิ้มลองอยู่เสมอ ดารริน ภาษีผล(นุ่น) ศันสนีย์ วงศ์วรเศรษฐ(มาจี้) หญิงสาวสองคน ที่ในวัยเด็กมีโลกแห่งความฝันใบเดียวกัน ที่เต็มไปด้วยจินตนาการของเสียงเพลงสูงๆ ต่ำ โลดแล่นอยู่ในความฝันของเธอทั้งสองมานาน ครั้งหนึ่งพวกเธอคิดจะทำค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมา ด้วยความรักและหลงใหลในเสียงเพลง แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝันในวัยเด็ก จนวันหนึ่งเมื่อเติบโตขึ้นมาเธอทั้งสองคิดที่จะขับเคลื่อนความฝันเหล่านั้นให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นมา จุดเริ่มต้นหลังจากที่มาจี้เรียนจบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และบินลัดฟ้าไปต่อปริญญาโทถึงประเทศอังกฤษ เมื่อเรียนจบก็ไปทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งที่เยอรมัน กลับมาเมืองไทยอีกครั้งก็ยังคงทำงานข้องเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งมาตลอด ส่วนนุ่นเองก็ศึกษาร่ำเรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์ science จากอเมริกา และไปศึกษาหาความรู้เพิ่มทางด้าน sound engineer ที่ SAE กระทั่งวันหนึ่งทั้งสองก็เกิดความคิดที่จะเปิดค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมา ด้วยความที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนอยู่ที่เตรียมอุดมฯ ทำให้การตกปากรับคำของคนทั้งสองไม่ยากนัก Zyd Records ย่อมาจาก zenith of young blood dream ซึ่งก็คือ ความใฝ่ฝันอันสูงสุดของคนรุ่นใหม่ คือคนที่มีใจรักทางด้านดนตรี นุ่นบอกว่า ประเด็นหลักๆ ของการทำค่ายเพลงก็เพื่อพยายามหาสิ่งแปลกใหม่มาให้คนฟัง แล้วก็ไม่ซ้ำซากจำเจ อย่างบางค่ายอาจจะทำเพลงเมนสตรีมออกมาตลอดเวลา แต่ Zyd พยายามจะสร้างอะไรใหม่ๆ ให้คนได้ฟังกัน โดยการหาคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทำงาน โดยที่ไม่จำกัดแนวทางดนตรี เพราะอยากที่จะสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่ชอบดนตรี รักดนตรี ได้ทำอย่างที่ฝัน ซึ่งก็เหมือนกับเรา ที่ครั้งหนึ่งฝันอยากจะทำอะไรแล้วเราก็ได้ทำจริงๆ อย่างบางคนมีความสามารถแต่ไม่ได้ทำ เพราะค่ายเพลงบางค่ายมีข้อจำกัดเยอะ แต่สำหรับเราเปิดกว้างให้กับคนที่มีความสามารถ และรักดนตรี ซึ่งเราอยากที่จะพัฒนาเพลงบ้านเรา เราไม่ได้บอกว่าจะพัฒนาให้มันดีขึ้นทั้งหมด คือเหมือนกับว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง เป็นทางเลือกใหม่ เพราะตอนนี้แวดวงดนตรีในบ้านเราเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม อย่างค่าย indy ก็เปิดตัวขึ้นมามาก มีทั้งอยู่ไม่ได้ก็เยอะ ที่อยู่ได้บ้างก็เยอะ เพราะจริงๆ แล้วประเทศไทยจะมีค่ายเพลงใหญ่ๆ อยู่ประมาณ 2-3 ค่าย ซึ่งวัยรุ่นหรือคนในบ้านเราปัจจุบันนี้มีวิสัยทัศน์ในการฟังเพลงมากขึ้น จึงคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ว่า ค่ายเล็กๆ ของเราจะเกิดขึ้นมาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ ให้กลุ่มคนฟัง อาจจะไม่มาก แต่เขาก็ได้เสพงานอะไรที่ใหม่ ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เป็นค่ายเพลงน้องใหม่ของ Zyd Records ทั้งสองสาวก็ได้มองเรื่องความอยู่รอด มองเรื่องการตลาด รวมทั้งได้วางแผนการประชาสัมพันธ์การตลาดให้กับค่ายเพลงของเขาพอสมควร หนึ่งด้วยเพราะความคลุกคลีทางด้านมาร์เก็ตติ้งมานานของมาจี้ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ คือเรายังเป็นค่ายเล็กอยู่ เราไม่มีกำลังทรัพย์ตรงนั้นพอ แต่ขณะเดียวกันก็พยายามจัดการให้อยู่ในงบที่มีอยู่ และบริการจัดการให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เริ่มจากอันดับแรกคือการเปิดตัว และต่อมาเราก็ใช้สื่อหนังสือพิมพ์และวิทยุช่วยในการประชาสัมพันธ์ แล้วก็เร็วๆ นี้ก็จะมีแคมปัสทัวร์เฉพาะในกรุงเทพฯ และจากนั้นก็ค่อยออกตามจังหวัดต่างๆ ที่เราวางไว้ ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นการขอสปอนเซอร์ในช่วงแรก เนื่องจากว่ายังไม่มีงบมากพอ บวกกับ Zyd Records นั้นใช้ทุนส่วนตัวเองทั้งหมด เพราะไม่มีนายทุนเหมือนกับค่ายเพลงอื่น จริงๆ แล้วอัลบั้มแรกเราก็อยากให้มีสปอนเซอร์เหมือนกัน แต่ว่าด้วยเวลาที่มันบีบรัดเข้ามาก็เลยหาสปอนเซอร์ไม่ทัน ตอนนี้เราก็หาสปอนเซอร์เพื่อทำแคมปัสทัวรคอนเสิร์ตต่างๆ ของโครงการต่อๆ ไป ธุรกิจมันเป็นวงเวียน มันเป็นรอบเงินที่ทำกิจการหนึ่งกิจการ อย่างออกตัวแรกไปพอเงินตีกลับมาปุ๊บ เราก็เอาเงินที่ได้มาพัฒนาตัว นอกจากจะเป็นค่ายเพลงทางเลือกใหม่ให้บรรดาคนที่มีความสามารถทางด้านดนตรี แต่ไม่มีพื้นที่แล้วนั้น Zyd Records ยังเป็นค่ายเพลงที่นำเสนอผลงานใหม่ๆ ต่อวงการเพลงบ้านเรา โดยประเดิมด้วยอัลบั้มแรกจากศิลปินวง jetset’er ลงบนแผง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดของทั้งนุ่นและมาจี้ในการเปิดค่ายเพลงก็ตาม แต่เหตุผลข้อหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยตรงที่พวกเธอบอกว่า นุ่น - จะเป็นการดีไม่น้อยที่เราจะสร้างเป็นกลุ่ม เป็นชุมชนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอินดี้หรืออะไรก็ตาม มีอะไรก็เอามาแชร์กัน เพื่อแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน มาจี้ - จริงๆ แล้วคนเรามีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน แล้วก็มีแนวทางของตัวเอง แล้วก็มีไอเดีย มีทักษะที่แตกต่างกัน ซึ่งมันน่าจะช่วยสนับสนุนกันได้


3 (Bands) in 1 (Night) ผ่านพ้นมาได้ไงเนี่ย(อย่างสวยงามซะด้วย)สำหรับเมื่อวานนี้กับการไปชมสามวงโปรดในหนึ่งคืน สามารถทำให้เราเจ็บคอและไข้ขึ้นได้เลย
เริ่มด้วยงานmelody of lifeที่central world เมื่อวานตั้งใจไปดูjetset'erกับลิปตาโดยเฉพาะ ดีจังเหมือนพี่ๆลิปตาส่วนใหญ่เค้าจารู้จักพวกเรากันแล้ว
โดยเฉพาะพี่ตี้นี่เดินยิ้มมาทักทายแต่ไกล ส่วนพี่คัตนี่ก่อนขึ้นร้องก็ช็อปแหลกนะฮ้า พี่แน๊ตตี้มาเกือบไม่ทันเพราะติดสอบตอนบ่ายแต่ก็มาจนทันได้
งานนี้เช่นเคยว่าพี่แน๊ตเค้าเล่นสองวงเลย ขำตัวเองตอนยืนดูพี่ก้อกะพี่กั้งเล่นอยู่บนเวทีแล้วป่านก็มาสะกิด
พอหันไป(จะด่าว่าจาเรียกทำไม ตูจะร้องเพลง) ก็เห็นพี่แน๊ตตี้ยืนอยู่ ไอ่เราก็ตกกะใจเลย"อ่าวเฮ้ย"ใส่พี่แน๊ตซะงั้น 555+ คุณน้องขอโทษนะคะคุณพี่
พี่แน๊ตน่ารักมากอ่า เวลาเล่นแล้วชอบทำหัวเป็นเต่า(ผงกๆ) ขอสมัครเป็นหัวหน้าชมรมคนรักพี่แน๊ตตี้ด่วนนนนน
ส่วนงานนี้พี่กุ๊กก็เล่นคีย์บอร์ดให้สองวงเช่นกัน เฮ้อ...เล่ามาซะยาวเชียว
พอเล่นเสร็จทั้งสองวงก็ต้องจับเครื่องบิน(ใช้ศัพท์ทันสมัยมั่กๆ)ไปทัวร์ที่เชียงใหม่และพิดโลกกัน (อิจฉาอ่า อยากตามไปดู) กลับมาวันอังคารเลยแหละ
อ่อ เท่าที่ทราบคงยกเว้นคัตโตะ-แทนที่รู้สึกจาตามไปสมทบวันรุ่งขึ้น ส่วนพี่เนไม่ได้ไปเพราะรับจ๊อบเล่นกลองให้DooBaDooแล้วก็วงอื่นอีก
แอบเสียดายที่jetไม่ยอมเล่นเพลงนัวเนียอ่า พักนี้เราแมร่งร้องเพลงนี้(กับเพลงสักวันเธอจะเข้าใจ)ทุกวันเลย
ขออนุญาตแนะนำวงjetset'erนะฮ้า เผื่อบางคนยังไม่รู้จัก ตามรูป: พี่เอ็ดดี้(กลอง) พี่หมู(เบส) พี่โอ(กีตาร์) พี่ที(ร้องนำ) + พี่neaty(คอรัส)

หายเงียบไปปีกว่า ล่าสุด 4 หนุ่มวง "JETSET'ER" จากค่าย "ZYD Records"(ซิด เรคคอร์ด) ก็ได้กลับคืนสู่วงการเพลงอีกครั้ง ด้วยการประเดิมส่งซิงเกิ้ลเพลงแรก "ฝ่าไฟแดง" แนวเพลง Disco Funk ผลงานในอัลบั้มชุดที่ 2 ออกมาให้ได้ฟังกันแล้ว โดยผลงานในอัลบั้มชุด 2 นี้จะมีความแตกต่างกับชุดที่แล้ว ตรงที่ส่วนของดนตรีที่หนักแน่นขึ้น มีกลิ่นของดนตรีแนว Funk ประกอบกับความสดใหม่ของไอเดียในการนำเสนอ ซึ่งเนื้อหาคำร้องของเพลงในอัลบั้มยังมีมุมมอง ที่แตกต่าง มีความน่าสนใจ สามารถสะท้อนแนวคิดของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
ร้องนำ:พิพิธพล ขำรัตน์(ที) อายุ:22ปี การศึกษา:นิเทศศาสตร์,ABAC
"...เดิมทีก็มีอยู่หลายชื่อที่พวกเราคิดกันไว้ โดยเริ่มมาจากที่พวกเราชอบคำว่า "Jet" กัน เพราะซาวด์มันฟังดูพุ่ง.. เท่.. และแมนดี.. ก็มีอยู่หลาย Jet เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่น Jetduck .. Jetlag .. (หัวเราะ) สุดท้ายก็มาลงตัวที่คำว่า "Jetset" ที่รุ่นพี่คนนึงชื่อพี่ทอมเป็นคนแนะนำ แล้วก็พวกเราก็เพิ่ม -er เข้าไปให้มันเป็นนามธรรมมากขึ้น ซึ่งเดิมทีแล้ว Jetset เป็นคำสแลงหมายถึง กลุ่มคนที่มีรสนิยม เพอร์เฟค หรู เลิศ อะไรประมาณนั้น ซึ่งในความรู้สึกของพวกเราต้องการจะสื่อความหมายของคำว่า "Jetset'er" ไม่ใช่กลุ่มคนที่ไฮโซ แต่หมายถึง ความ Jetset ในทางดนตรี เป็นดนตรีในอุดมคติที่พวกเราต้องการไปให้ถึง และก็คิดว่านักดนตรีทุกคนก็คงอยากจะไปให้ถึงจุดนั้นเหมือนๆ กัน ได้ทำงานเพลงที่มีความสมบูรณ์แบบในแนวทางของตัวเอง"
เบส:วรพจน์ วิศรุตนาถ(หมู) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล
"...อินดี้ คำๆ นี้ถ้าจะมองให้มันเป็นเทนด์ก็ได้นะ เพราะว่าอะไรก็ตามที่ทำแล้วเป็นกระแสขึ้นมา คนก็จะมองว่า แบบนี้สิมันแนวนะ มันกำลังมานะ มันเป็นแฟชั่น เขาก็ตามกัน แต่คนที่เขาทำงานกันแบบอินดี้จริงๆ จะมีสักกี่คน... คำว่า อินดี้ ในความหมายของผม มันน่าจะอยู่ตรงที่การทำงานต้องเป็นอิสระ ต้องไม่มีใครมาตีกรอบให้ เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ..."
กลอง:จุมพฏ จรรยหาญ(เอ๊ด) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชย์ศาสตร์ฯ สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ
กับอัลบั้มที่ 2 Jetset'er "วันนี้เราโตขึ้น เราเริ่มที่จะมาคิดกันว่า เรามีทัศนคติกับชีวิตอย่างไร เรามีประสบการณ์อะไรกันมาบ้าง ลักษณะของแต่ละคนเป็นอย่างไร ในชุดใหม่นี้อาจจะมีคำถามกันมากขึ้น เราจึงเลือกที่จะเรียกมันว่า อัลบั้ม "นู้ด (NUDE)" คืออย่างไรเสียก่อนที่เราจะแก่กันไปกว่านี้เราจะเปิดเผยอะไรที่มันอยู่ข้างในของพวกเรา เพราะการเปลือยมันเปลือยได้หลายแง่ มันมีอะไรที่ลึกลงไปในไอเดีย ในบางมุมที่คนเขาอาจจะคิดไม่ถึง"
กีต้าร์/ร้องประสาน:ทฤษฎี ศรีม่วง(โอ) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
"การทำเพลงกับค่ายเล็กในทุกวันนี้ มันมีปัญหาร้อยแปด คือกลุ่มคนที่คิดแบบเรา ผมเชื่อว่ายังคงมีอยู่เยอะ แต่ว่าที่สำคัญคือกลุ่มคนที่ฟังเองจะยอมรับได้ขนาดไหน และในอีกด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าวิทยุเองก็ถูกบล๊อกด้วยค่ายเพลงใหญ่ด้วย แต่ถ้าจะบอกว่าวงการเพลงในปัจจุบันพัฒนามั้ย จากอดีตถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าพัฒนาไปเยอะ เพียงแต่ว่า มันน่าจะพัฒนาด้วยสปีดที่เร็วกว่านี้ได้ เรื่องของการซื้อของเถื่อนก็ดี มันจะทำให้วงการเพลงบ้านเราจะแย่ลงเรื่อยๆ มันสวนทางกัน เพราะคนทำก็อยากทำงานดีๆ ออกมาเรื่อยๆ แต่กลุ่มคนฟังไม่ได้สนับสนุนคนทำงาน..."
เป้าหมายที่สำคัญและท้าทายกับก้าวที่สองของ Jetset'er ไม่ได้มองไปที่ยอดขาย แต่อยากให้คนฟังเปิดใจรับฟังพวกเค้า อยากให้เปิดใจรับฟังวงอื่นๆ ที่เขาทำเพลงที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่คุณคุ้นเคย บางทีคุณอาจจะพบกับสิ่งที่คุณกำลังค้นหาอยู่ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่มันวนๆ อยู่กับที่แบบ ที่คุณคุ้นเคย...
