JETSETERลองไปหาซื้อมาฟังนะคะเท่าที่ขิมยืนฟังในงานและสบสายตากับหนุ่มๆ 4 คนนี่เพลงเขาโอเคเลยค่ะร้องเพราะดีค่ะ
มือกลองค่ะ....ชื่ออะไรกันอีกเนี่ย
มือกีตาร์ค่ะไม่รู้ชื่ออีกเช่นเคย
Part II : NUDE
3 (Bands) in 1 (Night) ผ่านพ้นมาได้ไงเนี่ย(อย่างสวยงามซะด้วย)สำหรับเมื่อวานนี้กับการไปชมสามวงโปรดในหนึ่งคืน สามารถทำให้เราเจ็บคอและไข้ขึ้นได้เลย
เริ่มด้วยงานmelody of lifeที่central world เมื่อวานตั้งใจไปดูjetset'erกับลิปตาโดยเฉพาะ ดีจังเหมือนพี่ๆลิปตาส่วนใหญ่เค้าจารู้จักพวกเรากันแล้ว
โดยเฉพาะพี่ตี้นี่เดินยิ้มมาทักทายแต่ไกล ส่วนพี่คัตนี่ก่อนขึ้นร้องก็ช็อปแหลกนะฮ้า พี่แน๊ตตี้มาเกือบไม่ทันเพราะติดสอบตอนบ่ายแต่ก็มาจนทันได้
งานนี้เช่นเคยว่าพี่แน๊ตเค้าเล่นสองวงเลย ขำตัวเองตอนยืนดูพี่ก้อกะพี่กั้งเล่นอยู่บนเวทีแล้วป่านก็มาสะกิด
พอหันไป(จะด่าว่าจาเรียกทำไม ตูจะร้องเพลง) ก็เห็นพี่แน๊ตตี้ยืนอยู่ ไอ่เราก็ตกกะใจเลย"อ่าวเฮ้ย"ใส่พี่แน๊ตซะงั้น 555+ คุณน้องขอโทษนะคะคุณพี่
พี่แน๊ตน่ารักมากอ่า เวลาเล่นแล้วชอบทำหัวเป็นเต่า(ผงกๆ) ขอสมัครเป็นหัวหน้าชมรมคนรักพี่แน๊ตตี้ด่วนนนนน
ส่วนงานนี้พี่กุ๊กก็เล่นคีย์บอร์ดให้สองวงเช่นกัน เฮ้อ...เล่ามาซะยาวเชียว
พอเล่นเสร็จทั้งสองวงก็ต้องจับเครื่องบิน(ใช้ศัพท์ทันสมัยมั่กๆ)ไปทัวร์ที่เชียงใหม่และพิดโลกกัน (อิจฉาอ่า อยากตามไปดู) กลับมาวันอังคารเลยแหละ
อ่อ เท่าที่ทราบคงยกเว้นคัตโตะ-แทนที่รู้สึกจาตามไปสมทบวันรุ่งขึ้น ส่วนพี่เนไม่ได้ไปเพราะรับจ๊อบเล่นกลองให้DooBaDooแล้วก็วงอื่นอีก
แอบเสียดายที่jetไม่ยอมเล่นเพลงนัวเนียอ่า พักนี้เราแมร่งร้องเพลงนี้(กับเพลงสักวันเธอจะเข้าใจ)ทุกวันเลย
ขออนุญาตแนะนำวงjetset'erนะฮ้า เผื่อบางคนยังไม่รู้จัก ตามรูป: พี่เอ็ดดี้(กลอง) พี่หมู(เบส) พี่โอ(กีตาร์) พี่ที(ร้องนำ) + พี่neaty(คอรัส)
หายเงียบไปปีกว่า ล่าสุด 4 หนุ่มวง "JETSET'ER" จากค่าย "ZYD Records"(ซิด เรคคอร์ด) ก็ได้กลับคืนสู่วงการเพลงอีกครั้ง ด้วยการประเดิมส่งซิงเกิ้ลเพลงแรก "ฝ่าไฟแดง" แนวเพลง Disco Funk ผลงานในอัลบั้มชุดที่ 2 ออกมาให้ได้ฟังกันแล้ว โดยผลงานในอัลบั้มชุด 2 นี้จะมีความแตกต่างกับชุดที่แล้ว ตรงที่ส่วนของดนตรีที่หนักแน่นขึ้น มีกลิ่นของดนตรีแนว Funk ประกอบกับความสดใหม่ของไอเดียในการนำเสนอ ซึ่งเนื้อหาคำร้องของเพลงในอัลบั้มยังมีมุมมอง ที่แตกต่าง มีความน่าสนใจ สามารถสะท้อนแนวคิดของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว
ร้องนำ:พิพิธพล ขำรัตน์(ที) อายุ:22ปี การศึกษา:นิเทศศาสตร์,ABAC
"...เดิมทีก็มีอยู่หลายชื่อที่พวกเราคิดกันไว้ โดยเริ่มมาจากที่พวกเราชอบคำว่า "Jet" กัน เพราะซาวด์มันฟังดูพุ่ง.. เท่.. และแมนดี.. ก็มีอยู่หลาย Jet เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่น Jetduck .. Jetlag .. (หัวเราะ) สุดท้ายก็มาลงตัวที่คำว่า "Jetset" ที่รุ่นพี่คนนึงชื่อพี่ทอมเป็นคนแนะนำ แล้วก็พวกเราก็เพิ่ม -er เข้าไปให้มันเป็นนามธรรมมากขึ้น ซึ่งเดิมทีแล้ว Jetset เป็นคำสแลงหมายถึง กลุ่มคนที่มีรสนิยม เพอร์เฟค หรู เลิศ อะไรประมาณนั้น ซึ่งในความรู้สึกของพวกเราต้องการจะสื่อความหมายของคำว่า "Jetset'er" ไม่ใช่กลุ่มคนที่ไฮโซ แต่หมายถึง ความ Jetset ในทางดนตรี เป็นดนตรีในอุดมคติที่พวกเราต้องการไปให้ถึง และก็คิดว่านักดนตรีทุกคนก็คงอยากจะไปให้ถึงจุดนั้นเหมือนๆ กัน ได้ทำงานเพลงที่มีความสมบูรณ์แบบในแนวทางของตัวเอง"
เบส:วรพจน์ วิศรุตนาถ(หมู) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล
"...อินดี้ คำๆ นี้ถ้าจะมองให้มันเป็นเทนด์ก็ได้นะ เพราะว่าอะไรก็ตามที่ทำแล้วเป็นกระแสขึ้นมา คนก็จะมองว่า แบบนี้สิมันแนวนะ มันกำลังมานะ มันเป็นแฟชั่น เขาก็ตามกัน แต่คนที่เขาทำงานกันแบบอินดี้จริงๆ จะมีสักกี่คน... คำว่า อินดี้ ในความหมายของผม มันน่าจะอยู่ตรงที่การทำงานต้องเป็นอิสระ ต้องไม่มีใครมาตีกรอบให้ เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ..."
กลอง:จุมพฏ จรรยหาญ(เอ๊ด) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชย์ศาสตร์ฯ สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ
กับอัลบั้มที่ 2 Jetset'er "วันนี้เราโตขึ้น เราเริ่มที่จะมาคิดกันว่า เรามีทัศนคติกับชีวิตอย่างไร เรามีประสบการณ์อะไรกันมาบ้าง ลักษณะของแต่ละคนเป็นอย่างไร ในชุดใหม่นี้อาจจะมีคำถามกันมากขึ้น เราจึงเลือกที่จะเรียกมันว่า อัลบั้ม "นู้ด (NUDE)" คืออย่างไรเสียก่อนที่เราจะแก่กันไปกว่านี้เราจะเปิดเผยอะไรที่มันอยู่ข้างในของพวกเรา เพราะการเปลือยมันเปลือยได้หลายแง่ มันมีอะไรที่ลึกลงไปในไอเดีย ในบางมุมที่คนเขาอาจจะคิดไม่ถึง"
กีต้าร์/ร้องประสาน:ทฤษฎี ศรีม่วง(โอ) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
"การทำเพลงกับค่ายเล็กในทุกวันนี้ มันมีปัญหาร้อยแปด คือกลุ่มคนที่คิดแบบเรา ผมเชื่อว่ายังคงมีอยู่เยอะ แต่ว่าที่สำคัญคือกลุ่มคนที่ฟังเองจะยอมรับได้ขนาดไหน และในอีกด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าวิทยุเองก็ถูกบล๊อกด้วยค่ายเพลงใหญ่ด้วย แต่ถ้าจะบอกว่าวงการเพลงในปัจจุบันพัฒนามั้ย จากอดีตถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าพัฒนาไปเยอะ เพียงแต่ว่า มันน่าจะพัฒนาด้วยสปีดที่เร็วกว่านี้ได้ เรื่องของการซื้อของเถื่อนก็ดี มันจะทำให้วงการเพลงบ้านเราจะแย่ลงเรื่อยๆ มันสวนทางกัน เพราะคนทำก็อยากทำงานดีๆ ออกมาเรื่อยๆ แต่กลุ่มคนฟังไม่ได้สนับสนุนคนทำงาน..."
เป้าหมายที่สำคัญและท้าทายกับก้าวที่สองของ Jetset'er ไม่ได้มองไปที่ยอดขาย แต่อยากให้คนฟังเปิดใจรับฟังพวกเค้า อยากให้เปิดใจรับฟังวงอื่นๆ ที่เขาทำเพลงที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่คุณคุ้นเคย บางทีคุณอาจจะพบกับสิ่งที่คุณกำลังค้นหาอยู่ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่มันวนๆ อยู่กับที่แบบ ที่คุณคุ้นเคย...