Sunday, December 17, 2006

งานแฟทครั้งที่ 6... มีความสุขจัง...




ไปกะเพื่อนเก่าชาวใต้ และน้องคนนึง...
วันเสาร์ที่ 11 ไปถึงประมาน 12.00 ได้ม๊าง..
เข้างานก็ไปซื้อของ ได้ Jetseter มา 1 แผ่น หนังสือพี่บอยตรัย 1 เล่ม...
หลังจากนั้นก็ไปดูคอนเสิด..ตลอดวัน 555+
พอดีว่าอยากดูพวกศิลปินตปท.กะพวกดิสโก้ แจ๊ส โซล ไรเทือกนี้อ่ะ
ก็เลยแยกกะเพื่อนๆต่างคนต่างไปดู..
ส่วนข้าเจ้าก็ไปกะน้องเค้า..เหอๆ ตอนแรกก็กลัวว่าน้องเค้าจะเบื่อ...
ตอนหลัง..ก็ยังกลัวว่าเค้าจะเบื่ออยู่ดี 5555...
ที่ดูก็ 21scott HRU ETC. Jetseter Docholiday and Apachetrain
YMCK ส่วน ก้านคอ Buddha Bless กะ โจอี้บอยนี่ น้องเค้าอยากดูก็เลย เอ้าท์ไปไปไป 55+
มัส์ดีเหมือนกันนะ ฮิบฮอพเนี่ย 555+ วู๊วๆ... ก่าจะกลับบ้านก็ เที่ยงคืนได้มั้ง...

วันนี้มีความสุขที่สุดเลย^^ แม้จะเปงวันเดียวก็ตาม ^^


วันอาทิตย์ที่ 12 ไปถึงเวลาเดิม..คราวนี้น้องคนน้านไม่ได้ไปด้วย.. -*-
ได้รับโทรสับตอนเช้า...
..พี่!!! ไปไม่ได้ แม่ไม่ให้ไป....
เซงเลยอ่า... อยากให้ไปด้วยจัง...
ก็เลยมีพวกเดิมๆชาวใต้ ไอ้โจ้ และก็น้องของไอ้โตน
วันนี้ก็แยกๆกันไปดู...ใครอยากดูวงไหนก็ไปวู๊วๆ...
วันนี้ที่ดูก็มี
Good September บอยตรัย ละอองฟอง The Travellers FLURE R&B11 Kunksanova Lipta
วันนี้ประทับใจบอยตรัย ละอองฟอง Lipta ออว FLUREด้วยมันส์โคตร..มือกลองที่เล่นแทนเอิร์ทก็สุดยอดจิงๆ
แต่ที่สุดๆก็บอยตรัยอ่ะ... ขนลุก..น้ำตาซึม... มีพลังมหาสานจิงๆ...
ดูเหมือนเป็นคอนเสิดทำมาดา.. แต่มันสัมผัสได้... สุดดยอดๆจิงๆ...
ยังนึกถึงน้องที่ไปด้วยวันเสาร์เลย อยากให้มาด้วยจิงๆ... เสียดายจัง...
ออว์ และก็ เสียตังค์ไปแยะมากเลยวันนี้....-*- ใช้เงินเปลืองชิบ...
ได้พวงกุญแจเบเกอร์รี่ ซีดี Crescendo ซีดี LOVES Velvet Peach 7 โรงบ่มคนดนตรี และก็ DVD The Travellers.

สนุกมากๆ มีความสุขสุดๆ 5555+ วู๊วๆๆๆ....

สถานที่ที่ไปสนุกมากมาย..
แต่..ก็ไม่สำคัญเท่าคนที่ไปด้วยเลยจิงๆ....

Monday, December 04, 2006

•• 4th •• Jetset'er




วันนี้ไปเที่ยวเซ็นปิ่นมาจ๊า...ไป B2S ไปซื้อดินสอ ปากกา...ซื้อแค่เนี่ย แต่อยากซื้อที่นี่นิตอนเลือกซื้อดินสออ่า ก็มีประกาศว่า วันนี้มีมินิคอนเสิร์ตอ่ะของ jetseter ....ประกาศจบ เราก็ไม่ได้สนใจอารัยนัก..ก็ยืนเลือกดินสอต่อไป...ขณะที่ยืนเลือกซื้ออยู่....ก็มีชายหน้าตาหล่อ ๆ ๆ มายืนข้าง ๆ....หล่อมาก ๆ ด้วยอ่า...ยืนไปยืนมา ก็มีคนมาทักเค้า ดูก็พอรู้ละว่าเป็นดาราแน่ ๆ อ่ะแล้วสุดท้ายก็ใช่ค่ะ....นักร้องนำวง jetseter ค่ะ....น่ารักโคตรก็ไม่ได้สนใจอารัยมาก แค่หันมองบ่อย ๆ อิอิ พอได้ดินสอละก็ไปซื้อปากกาต่อ ซื้อเสร็จ เพื่อนโทรมาตาม ให้ไปหาที่ร้านไปลงโปรแกรมให้มันหน่อย...ก็เลยรีบจ่ายเงิน รีบลงไปหามันไปแวะลงโปรแกรมให้เพื่อนที่ร้านมัน...ลงโปรแกรมเสร็จ...เพื่อนอีกคนโทรมาหา ถามว่าอยู่ไหน เราเรยบอกว่า อยู่เซ็นปิ่นมันก็บอกให้ขึ้นไปหามันที่ B2S หน่อย มาอยู่เป็นเพื่อนมันก็เลยขึ้นไป มันให้เดินไปหาที่ที่เค้าจัดมินิคอนเสิร์ต ก็เลยเดินไปโฮ่ะ ๆ ๆ เพิ่งรู้ค่ะ ว่า พี่ชายมัน อยู่วงนี้ด้วย... เป็นมือกลองค่ะแล้วเมื่อกี้ มันก็ใช้เบอร์พี่ชายมันโทรมาหา...กรูแทบจะกรี๊สสสสแล้วก็เลยถามมันว่า...ทำไมไม่เคยบอกเลยว่าพี่ชายจะออกเทปมันบอกว่า เก็บไว้เซอร์ไพสเพื่อนฝูง.....ไอ่แสรดดด....แม่ง...ทำไมไม่บอกกูตั้งแต่แรกวะเนี่ยยยยย ว่าเพื่อนพี่มึงหล่อ 5555+แล้วมันก็ถามเรื่องพี่ม่ากับเรา....ว่า..พี่ม่าเป็นยังงัยบ้าง(( พี่ม่า มือกลองวงรัยไม่รุ้ จำชื่อไม่ได้ ))....กูจะรู้ดีไหมอ่าตั้งแต่เค้าจีบเพื่อนกรูม่ายติด เค้าก็ม่ายโผล่หัวมาหาพวกกูเลยแล้วก็อยู่ใน B2S ไม่นานก็กลับบ้านอ่ะ....คิเกียดอยู่นาน...เบื่อกลับบ้าน ก็มาเล่นเน็ทเนี่ยแหละ...เบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนบ่อย...(( คุณชายบอกมา ))


Saturday, November 25, 2006

เพิ่งรู้จักวงใหม่อะคะ วง JETSETER

เมื่อวันเสาร์ หนูขิมน้อยไปซื้อของที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้าค่ะไปที่ชั้น 4 B2Sได้ยินเสียงเพลงแว่วมาแต่ไกลไม่รีรอที่จะเดินตามเสียงเพลงเพิ่งรู้จักวงใหม่อะคะ วง JETSETER คนยืนขวางเต็มไปหมดเลย ไม่รู้จะถ่ายยังไง...ภาพเลยมาเป็นแบบนี้อ่ะคะ

JETSETERลองไปหาซื้อมาฟังนะคะเท่าที่ขิมยืนฟังในงานและสบสายตากับหนุ่มๆ 4 คนนี่เพลงเขาโอเคเลยค่ะร้องเพราะดีค่ะ


มือกลองค่ะ....ชื่ออะไรกันอีกเนี่ย

มือเบสค่ะน่าร้ากกกก....ไม่รู้ชื่ออีกตามเคย


มือกีตาร์ค่ะไม่รู้ชื่ออีกเช่นเคย


นักร้องนำค่ะไม่รู้ชื่อ แหะ แหะ



สรุปว่า ไม่รู้ชื่ออะไรกันค่ะรู้แต่ว่า ชื่อ วง JETSETER (แอบอ่านปกเทป)เอิ๊กๆๆ .....................................รัวกลองเชียว.. ภาพเบลอเลยครับทั่น หมดละคะภาพความจริงมีตั้งหลายรูป เลือกมาลงแค่นี้ละคะ...เดี๋ยวสายตาเสีย ลงมาให้ดูว่า เมืองไทยก็มีวงใหม่ๆเกิดขึ้นค่ะ


Source

Wednesday, November 22, 2006

Maewmong Exclusive Party #3




บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วย Party สาวสวยจาก PrettyGang ที่มาในชุดสีสันสดใส ย้อนยุคสไตล์คุณแม่ยังสาว พร้อมบรรดาแมวมองทั้งหลายที่มาร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง ภายใต้ความเป็นกันเองและอบอุ่นแบบสุดๆ นอกจากนี้ ยังมีโชว์จากศิลปินสุดฮิตที่เรียกว่าฮอตที่สุดในตอนนี้ JETSET’ ER กับเพลงโดนๆ อย่าง “ฝ่าไฟแดง” และเพลงดังๆ โดนใจอีกเพียบ สำหรับใครที่พลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไป ไม่ต้องเสียใจนะคะ เรามีภาพบรรยากาศมันส์ๆ สนุกๆ มาฝากเพื่อนๆ กันด้วย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ




Monday, November 20, 2006

Keepwalking Society



Jetset’er
คุณภาพคับแก้วจริงๆกับศิลปินที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างวง Jetset’er สังกัดค่าย ZYD Records ที่ผสานความเป็น Acoustic เข้าไปในทุกแนวเพลง อาทิ Pop , Jazz , Hip Hop และอื่นๆ จนกลายมาเป็นเพลงแนว Acoustic Fusion ที่ “ได้ใจ” คนฟังไปทั่วบ้าน ทั่วเมืองแล้ว ณ เวลานี้ ทั้งๆที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานพวกเขาทั้ง 4 คน เป็นตัวแทนของคนหนุ่มรุ่นใหม่ ที่ไต่บันไดสู่ฝันทางดนตรี ได้มีอัลบั้ม ที่ดูแลการผลิตเองตั้งแต่ต้นจนจบ วันนี้เขาทั้ง 4 ไม่ได้มาถ่ายทอดความฝันผ่านเสียงดนตรี แต่ผ่านตัวหนังสือที่ร้อยเรียงเป็นข้อความดีๆ ให้เราได้รู้จักแง่มุมอื่นๆของพวกเขามากยิ่งขึ้น สัมผัสตัวตนของพวกเขาได้พร้อมกันเเล้วที่นี่

Read more

จุดนัดฝันของ Zyd Records

ดารริน ภาษีผล ศันสนีย์ วงศ์วรเศรษฐ จุดนัดฝันของ Zyd Records “เหมือนกับว่าเราฝันอะไรไว้ แต่พอมาถึงแล้วเราเพิ่งรู้ว่าจริงๆ เพิ่งเริ่มต้น ซึ่งมันก็เหนื่อยแต่ว่ามันก็มีความสุขขึ้นมาอีกระดับ อย่างนุ่นทำงาน นุ่นก็จะเป็นโปรดิวเซอร์ เราก็นั่งทำทุกๆ คืนแต่ว่ามันก็มีความสุขดี สนุกกับงานที่ทำ แล้วเราก็พยายามทำให้มันดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีหรือศิลปินที่ทำงานด้วยกันก็เหนื่อยกันทุกคนแต่ว่ามีความสุข” ว่ากันว่า การได้ลงมือทำอะไรสักอย่างตามความเชื่อของตัวเองนั้น ไม่ว่าสิ่งที่ทำลงไปจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นเช่นใดนั้น อาจไม่สำคัญเท่ากับการได้ลองถูกลองผิดด้วยตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นโลกแห่งความฝันด้วยแล้ว กลิ่นความฝันมักหอมหวาน และชวนให้ลิ้มลองอยู่เสมอ ดารริน ภาษีผล(นุ่น) ศันสนีย์ วงศ์วรเศรษฐ(มาจี้) หญิงสาวสองคน ที่ในวัยเด็กมีโลกแห่งความฝันใบเดียวกัน ที่เต็มไปด้วยจินตนาการของเสียงเพลงสูงๆ ต่ำ โลดแล่นอยู่ในความฝันของเธอทั้งสองมานาน ครั้งหนึ่งพวกเธอคิดจะทำค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมา ด้วยความรักและหลงใหลในเสียงเพลง แต่นั่นก็เป็นเพียงความฝันในวัยเด็ก จนวันหนึ่งเมื่อเติบโตขึ้นมาเธอทั้งสองคิดที่จะขับเคลื่อนความฝันเหล่านั้นให้อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงขึ้นมา จุดเริ่มต้นหลังจากที่มาจี้เรียนจบปริญญาตรีจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และบินลัดฟ้าไปต่อปริญญาโทถึงประเทศอังกฤษ เมื่อเรียนจบก็ไปทำงานด้านมาร์เก็ตติ้งที่เยอรมัน กลับมาเมืองไทยอีกครั้งก็ยังคงทำงานข้องเกี่ยวกับมาร์เก็ตติ้งมาตลอด ส่วนนุ่นเองก็ศึกษาร่ำเรียนมาทางด้านคอมพิวเตอร์ science จากอเมริกา และไปศึกษาหาความรู้เพิ่มทางด้าน sound engineer ที่ SAE กระทั่งวันหนึ่งทั้งสองก็เกิดความคิดที่จะเปิดค่ายเพลงของตัวเองขึ้นมา ด้วยความที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนอยู่ที่เตรียมอุดมฯ ทำให้การตกปากรับคำของคนทั้งสองไม่ยากนัก Zyd Records ย่อมาจาก zenith of young blood dream ซึ่งก็คือ ความใฝ่ฝันอันสูงสุดของคนรุ่นใหม่ คือคนที่มีใจรักทางด้านดนตรี นุ่นบอกว่า ประเด็นหลักๆ ของการทำค่ายเพลงก็เพื่อพยายามหาสิ่งแปลกใหม่มาให้คนฟัง แล้วก็ไม่ซ้ำซากจำเจ อย่างบางค่ายอาจจะทำเพลงเมนสตรีมออกมาตลอดเวลา แต่ Zyd พยายามจะสร้างอะไรใหม่ๆ ให้คนได้ฟังกัน โดยการหาคนรุ่นใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทำงาน โดยที่ไม่จำกัดแนวทางดนตรี เพราะอยากที่จะสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่ชอบดนตรี รักดนตรี ได้ทำอย่างที่ฝัน ซึ่งก็เหมือนกับเรา ที่ครั้งหนึ่งฝันอยากจะทำอะไรแล้วเราก็ได้ทำจริงๆ อย่างบางคนมีความสามารถแต่ไม่ได้ทำ เพราะค่ายเพลงบางค่ายมีข้อจำกัดเยอะ แต่สำหรับเราเปิดกว้างให้กับคนที่มีความสามารถ และรักดนตรี ซึ่งเราอยากที่จะพัฒนาเพลงบ้านเรา เราไม่ได้บอกว่าจะพัฒนาให้มันดีขึ้นทั้งหมด คือเหมือนกับว่าเป็นทางเลือกหนึ่ง เป็นทางเลือกใหม่ เพราะตอนนี้แวดวงดนตรีในบ้านเราเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม อย่างค่าย indy ก็เปิดตัวขึ้นมามาก มีทั้งอยู่ไม่ได้ก็เยอะ ที่อยู่ได้บ้างก็เยอะ เพราะจริงๆ แล้วประเทศไทยจะมีค่ายเพลงใหญ่ๆ อยู่ประมาณ 2-3 ค่าย ซึ่งวัยรุ่นหรือคนในบ้านเราปัจจุบันนี้มีวิสัยทัศน์ในการฟังเพลงมากขึ้น จึงคิดว่าน่าจะเป็นไปได้ว่า ค่ายเล็กๆ ของเราจะเกิดขึ้นมาพร้อมกับอะไรใหม่ๆ ให้กลุ่มคนฟัง อาจจะไม่มาก แต่เขาก็ได้เสพงานอะไรที่ใหม่ ขณะเดียวกัน ด้วยความที่เป็นค่ายเพลงน้องใหม่ของ Zyd Records ทั้งสองสาวก็ได้มองเรื่องความอยู่รอด มองเรื่องการตลาด รวมทั้งได้วางแผนการประชาสัมพันธ์การตลาดให้กับค่ายเพลงของเขาพอสมควร หนึ่งด้วยเพราะความคลุกคลีทางด้านมาร์เก็ตติ้งมานานของมาจี้ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ คือเรายังเป็นค่ายเล็กอยู่ เราไม่มีกำลังทรัพย์ตรงนั้นพอ แต่ขณะเดียวกันก็พยายามจัดการให้อยู่ในงบที่มีอยู่ และบริการจัดการให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เริ่มจากอันดับแรกคือการเปิดตัว และต่อมาเราก็ใช้สื่อหนังสือพิมพ์และวิทยุช่วยในการประชาสัมพันธ์ แล้วก็เร็วๆ นี้ก็จะมีแคมปัสทัวร์เฉพาะในกรุงเทพฯ และจากนั้นก็ค่อยออกตามจังหวัดต่างๆ ที่เราวางไว้ ซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นการขอสปอนเซอร์ในช่วงแรก เนื่องจากว่ายังไม่มีงบมากพอ บวกกับ Zyd Records นั้นใช้ทุนส่วนตัวเองทั้งหมด เพราะไม่มีนายทุนเหมือนกับค่ายเพลงอื่น จริงๆ แล้วอัลบั้มแรกเราก็อยากให้มีสปอนเซอร์เหมือนกัน แต่ว่าด้วยเวลาที่มันบีบรัดเข้ามาก็เลยหาสปอนเซอร์ไม่ทัน ตอนนี้เราก็หาสปอนเซอร์เพื่อทำแคมปัสทัวรคอนเสิร์ตต่างๆ ของโครงการต่อๆ ไป ธุรกิจมันเป็นวงเวียน มันเป็นรอบเงินที่ทำกิจการหนึ่งกิจการ อย่างออกตัวแรกไปพอเงินตีกลับมาปุ๊บ เราก็เอาเงินที่ได้มาพัฒนาตัว นอกจากจะเป็นค่ายเพลงทางเลือกใหม่ให้บรรดาคนที่มีความสามารถทางด้านดนตรี แต่ไม่มีพื้นที่แล้วนั้น Zyd Records ยังเป็นค่ายเพลงที่นำเสนอผลงานใหม่ๆ ต่อวงการเพลงบ้านเรา โดยประเดิมด้วยอัลบั้มแรกจากศิลปินวง jetset’er ลงบนแผง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดของทั้งนุ่นและมาจี้ในการเปิดค่ายเพลงก็ตาม แต่เหตุผลข้อหนึ่งที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยตรงที่พวกเธอบอกว่า นุ่น - จะเป็นการดีไม่น้อยที่เราจะสร้างเป็นกลุ่ม เป็นชุมชนขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นอินดี้หรืออะไรก็ตาม มีอะไรก็เอามาแชร์กัน เพื่อแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน มาจี้ - จริงๆ แล้วคนเรามีความสามารถที่ไม่เหมือนกัน แล้วก็มีแนวทางของตัวเอง แล้วก็มีไอเดีย มีทักษะที่แตกต่างกัน ซึ่งมันน่าจะช่วยสนับสนุนกันได้

เพิ่งซื้ออัลบั้ม Nude ของ Jetset'er มาเมื่อวาน



วันนี้ไปทำงานมาค่ะ จ้องคอมมากไปจนปวดหัว แม่ให้แปลข้อมูลทำโบรชัวร์และงานแปลอื่นๆเยอะเลยสงสัยใช้ความคิดมาก ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว งานแปลในมือเริ่มเยอะ พรุ่งนี้ก็เปิดเทอมแล้ว การเรียนป.โทและงานหนังสือตีกันยุ่งแน่ๆเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย วันนี้ไปเจอน้องสาวคนหนึ่ง คุยกันเนิ่นนานจนเกือบเที่ยงคืน รู้สึกดีจัง...^-^ ช่วงนี้ยอมรับค่ะว่าฟังเพลงไม่หลากหลายเพราะฟังมันอยู่อัลบั้มเดียว555ก็ถ้าอะไรมันดี จะไปเปลี่ยนทำไมล่ะคะ เพิ่งซื้ออัลบั้ม Nude ของ Jetset\'erมาเมื่อวาน แล้วจากนั้นก็ฟังวนไปเวียนมา เพลินใจมากมายถือเป็นอัลบั้มนู้ดที่น่าฟังมากค่ะ โดยรวมแล้วชอบทุกเพลงเลยค่ะ ลงตัวทุกเพลงชอบดนตรีที่มีลายเบสสวยๆ โซโล่กีต้าร์เจ๋งๆและเครื่องเป่าสาดๆ อัลบั้มนี้ตอบทุกความต้องการของเราได้เลย ฝันเป็นจริง...^-^ ฝ่าไฟแดง - ชอบตั้งแต่กีตาร์ตอนขึ้น จังหวะดนตรีที่รับโยนกันอย่างสนุกสนาน มันมากค่ะ ชอบจริงๆตอนนี้ริงโทนเราเป็นเพลงนี้ โยกเพลินจนจบเพลงไม่รู้ตัวเลย โอ้ว โอ้ว โอ้ว โอ้ววว... ใจร้าย - ชอบเพลงจังหวะกลางๆแบบนี้ชอบอารมณ์ของเพลง นายทีร้องเพลงนี้ได้เพราะมากๆชอบคำว่า "เห็นใจคนที่เขารักเธอหน่อยได้ไหม"เพลงนี้น้องแทน ลิปตามาช่วยแต่งด้วย ก็เลยนึกไปถึงเพลง ฝืน นิดนึง เปิดต่อกันได้เลย อารมณ์มันต่อกันดี หมดอายุ - เพลงนี้พอเปิดต่อกับเพลง ใจร้าย ก็เลยยิ่งตอกย้ำความเจ็บช้ำ555 กีตาร์กะเครื่องเป่าตอนอินโทรเพลงเจ๋งดี มาแนว อาร์แอนด์บี เห็นว่าเป็นภาคสองของเพลงตัวคั่นเวลา ได้อารมณ์มากค่ะ นีทชอบเพลงนี้มากกว่าตัวคั่นอีกค่ะ สีสันเยอะกว่า เมโลดี้ร้องสูงดี บาดอารมณ์เจงๆ Make Life Light - มาแล้วแนวดิสโก้ที่ทุกคนชื่นชอบ (*.*)เพลงนี้ฟังสนุกค่ะ โยกเพลินดี ภาคดนตรีก็มีสีสันชวนฟัง ขอบคุณช้างไลท์ค่ะ จูบ - เพลงนี้เป็นเพลงรักที่น่ารัก ฟังแล้วจั้กกะจี๋หัวใจมากมายนึกถึงความโรแมนติก กับลมพริ้วๆ เคลิ้มมากค่ะ จังหวะโยนๆแนวๆก้อนหินละเมอ แต่เร็วกว่าหน่อย บวกเสียงเครื่องเป่าครบรสน้องๆทียูแบนด์จ๋า ถ้าเบื่อเล่นเพลงก้อนหินละเมอ ก็มาเล่นเพลงนี้แทนเหอะค่ะ พี่แนะนำ55 Another Day - เพลงนี้เป็นเพลงอกหักที่น่ารัก มองโลกในแง่ดีมากๆดนตรีก็น่ารัก ยังคงมีรายละเอียดดนตรีที่ควรฟังมากกว่าหนึ่งรอบตามสไตล์ของเจทเซทเตอร์เช่นเคยค่ะ เปิดใจ - ดนตรีเจ๋งอ่ะค่ะโซลมากมาย ชอบท่อนฮุคและก่อนฮุค โซโล่Sin ก็เท่มากๆ เอ..อย่างนี้เค้าเรียกว่า Shuffle ป่ะคะ ชอบอ่ะค่ะ ถ้าได้ฟังเพลงนี้เล่นสดคงมันส์ดีนะคะ เชียร์ๆ Mind Diary - เพลงเศร้าของคนที่ยังรัก... เสียงเปียโน เสียงแซ่กลองสแนร์ และแซ็กโซโฟน ไม่ต้องบรรยายอะไรเพิ่มเติมแล้วค่ะ โอ้โฮ - เพลงอะร้ายยย น่ารักจริงๆ ชอบจังหวะกลองและลายเบสค่ะ เนื้อร้องก็เหลือร้าย พี่โอร้องยียวนกวนจิตมากค่ะ กีตาร์ฟังแล้วนึกถึง John Mayer นิดๆ My Sweet Highway - เหมือนฟังอัลบั้ม Smooth Jazz ของเมืองนอกอ่ะค่ะ เสียงแซ็กบาดมากกก กีตาร์ก็นุ่มซะ เยี่ยมกู้ดดดค่ะ Trust (Holiday Remix Version) เพลงนี้เหมาะกะหน้าหนาว มิกซ์ได้น่ารักดี เพลินค่ะ เพลินๆ ชอบหมดทุกเพลงจริงๆค่ะ คุ้มสุดคุ้ม ในซีดีถ้าเปิดในคอมจะมีเบื้องหลังการทำงานของวงอยู่ด้วย จะว่านีทเชียร์ออกนอกหน้าก็ได้นะคะ ลองฟังดูค่ะ ของเค้าดีจริง

Thursday, November 16, 2006

เมื่อวานไปซื้อ Jetset'er อัลบั้มใหม่มาแร้วชอบมาก



อ่อ เมื่อวานไปซื้อJetset'erอัลบั้มใหม่มาแร้ว ชอบมากอ่ะ เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นไงชอบเพลงที่มีเครื่องเป่าผสมกะกีต้าร์อยู่ด้วยกัน(ตอนนี้ชอบเพลงวงH.R.U.รู้สึกเพลงมันมีพลังดี) ทั้งๆที่แต่ก่อนเป็นคนที่เกลียดเสียงเครื่องเป่ามากอ่ะ หนวกหูอัลบั้มนี้ของJetก็มีกลิ่นเครื่องเป่ามาผสมหลายเพลงเลยหล่ะ รู้สึกจะลงตัวกว่าอัลบั้มแรกนะ ดีค่ะดี ชอบคุ่ะชอบ ในcdมีenhanced featureที่ให้ดูเบื้องหลังของวงด้วย หุหุ ไอ่ป่านท่าจะดีใจได้ดูพี่หมูJet ใครยัังไม่ได้ซื้อไปหาซื้อด่วนนะครับพี่น้อง ชอบมากๆโดยเฉพาะเพลงkissกะso meanส่วนมิ้มชอบconfessionเพราะเหมือนถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ตรงของเธอ ช่ายมั้ยจ๊ะ 55+

3 (Bands) in 1 (Night) ผ่านพ้นมาได้ไงเนี่ย(อย่างสวยงามซะด้วย)สำหรับเมื่อวานนี้กับการไปชมสามวงโปรดในหนึ่งคืน สามารถทำให้เราเจ็บคอและไข้ขึ้นได้เลย

เริ่มด้วยงานmelody of lifeที่central world เมื่อวานตั้งใจไปดูjetset'erกับลิปตาโดยเฉพาะ ดีจังเหมือนพี่ๆลิปตาส่วนใหญ่เค้าจารู้จักพวกเรากันแล้ว
โดยเฉพาะพี่ตี้นี่เดินยิ้มมาทักทายแต่ไกล ส่วนพี่คัตนี่ก่อนขึ้นร้องก็ช็อปแหลกนะฮ้า พี่แน๊ตตี้มาเกือบไม่ทันเพราะติดสอบตอนบ่ายแต่ก็มาจนทันได้
งานนี้เช่นเคยว่าพี่แน๊ตเค้าเล่นสองวงเลย ขำตัวเองตอนยืนดูพี่ก้อกะพี่กั้งเล่นอยู่บนเวทีแล้วป่านก็มาสะกิด
พอหันไป(จะด่าว่าจาเรียกทำไม ตูจะร้องเพลง) ก็เห็นพี่แน๊ตตี้ยืนอยู่ ไอ่เราก็ตกกะใจเลย"อ่าวเฮ้ย"ใส่พี่แน๊ตซะงั้น 555+ คุณน้องขอโทษนะคะคุณพี่
พี่แน๊ตน่ารักมากอ่า เวลาเล่นแล้วชอบทำหัวเป็นเต่า(ผงกๆ) ขอสมัครเป็นหัวหน้าชมรมคนรักพี่แน๊ตตี้ด่วนนนนน
ส่วนงานนี้พี่กุ๊กก็เล่นคีย์บอร์ดให้สองวงเช่นกัน เฮ้อ...เล่ามาซะยาวเชียว
พอเล่นเสร็จทั้งสองวงก็ต้องจับเครื่องบิน(ใช้ศัพท์ทันสมัยมั่กๆ)ไปทัวร์ที่เชียงใหม่และพิดโลกกัน (อิจฉาอ่า อยากตามไปดู) กลับมาวันอังคารเลยแหละ
อ่อ เท่าที่ทราบคงยกเว้นคัตโตะ-แทนที่รู้สึกจาตามไปสมทบวันรุ่งขึ้น ส่วนพี่เนไม่ได้ไปเพราะรับจ๊อบเล่นกลองให้DooBaDooแล้วก็วงอื่นอีก
แอบเสียดายที่jetไม่ยอมเล่นเพลงนัวเนียอ่า พักนี้เราแมร่งร้องเพลงนี้(กับเพลงสักวันเธอจะเข้าใจ)ทุกวันเลย
ขออนุญาตแนะนำวงjetset'erนะฮ้า เผื่อบางคนยังไม่รู้จัก ตามรูป: พี่เอ็ดดี้(กลอง) พี่หมู(เบส) พี่โอ(กีตาร์) พี่ที(ร้องนำ) + พี่neaty(คอรัส)


Read more

ศิลปินกลุ่มแรกที่นำเสนอเพลงแนว Acoustic Fusion

Jetset'er คือ ศิลปินกลุ่มแรกที่นำเสนอเพลงแนว Acoustic Fusion ภายใต้ ค่ายเพลงใหม่ที่ชื่อ ZYD Records ซึ่งศิลปินกลุ่มนี้ สามารถตอบโจทย์แนวคิดจากต้นสังกัดได้อย่างสมบูรณ์ โดยการนำเสนอแนวเพลงและบทบาทของศิลปินที่มีความเป็นอิสระทางความคิด และมีรูปแบบที่เป็นตัวตนของศิลปินมากที่สุด

Jetset'er เป็นกลุ่มนักดนตรีที่ผ่านเวทีการประกวด โดยมีผลงานชนะเลิศการประกวดวงดนตรีมหาวิทยาลัยระดับประเทศ ชิงถ้วยพระราชทานของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ (TUMA ครั้งที่ 3)

สมาชิก ประกอบด้วย
พิพิธพล ขำรัตน์ (ที) ตำแหน่ง ร้องนำ กำลังศึกษาอยู่ที่ คณะนิเทศศาสตร์ ABAC เคยชนะเลิศในการประกวด Singing Contest ของมหาวิทยาลัยทฤษฎี ศรีม่วง (โอ) ตำแหน่ง กีต้าร์ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จาก คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ เป็น Studio Guitarist ให้ศิลปินต่างๆ มากมาย เช่น Clash , 2 Become 1, Lipta, Royal Sprite, So cool, Bra Brannerวรพจน์ วิศรุตนาถ (หมู) ตำแหน่ง เบส จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ม.ธรรมศาสตร์ เริ่มหัดเล่นเบส เมื่ออายุ 18 ปี ชอบงานดนตรีที่มีพื้นฐานในแนว Soul, Funk , Discoจุมพฏ จรรยหาญ (เอ็ด) ตำแหน่ง กลอง จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ เป็น Studio Drummer ให้กับ Lipta และแนวเพลงที่ชื่นชอบ คือ Soul, Hip-Hop


Wednesday, November 15, 2006

กับแนวดนตรีที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง มันกลับมาพร้อม Jetset'er (เจ็ตเซ็ตเตอร์)



หายเงียบไปปีกว่า ล่าสุด 4 หนุ่มวง "JETSET'ER" จากค่าย "ZYD Records"(ซิด เรคคอร์ด) ก็ได้กลับคืนสู่วงการเพลงอีกครั้ง ด้วยการประเดิมส่งซิงเกิ้ลเพลงแรก "ฝ่าไฟแดง" แนวเพลง Disco Funk ผลงานในอัลบั้มชุดที่ 2 ออกมาให้ได้ฟังกันแล้ว โดยผลงานในอัลบั้มชุด 2 นี้จะมีความแตกต่างกับชุดที่แล้ว ตรงที่ส่วนของดนตรีที่หนักแน่นขึ้น มีกลิ่นของดนตรีแนว Funk ประกอบกับความสดใหม่ของไอเดียในการนำเสนอ ซึ่งเนื้อหาคำร้องของเพลงในอัลบั้มยังมีมุมมอง ที่แตกต่าง มีความน่าสนใจ สามารถสะท้อนแนวคิดของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัว

ร้องนำ:พิพิธพล ขำรัตน์(ที) อายุ:22ปี การศึกษา:นิเทศศาสตร์,ABAC
"...เดิมทีก็มีอยู่หลายชื่อที่พวกเราคิดกันไว้ โดยเริ่มมาจากที่พวกเราชอบคำว่า "Jet" กัน เพราะซาวด์มันฟังดูพุ่ง.. เท่.. และแมนดี.. ก็มีอยู่หลาย Jet เหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่น Jetduck .. Jetlag .. (หัวเราะ) สุดท้ายก็มาลงตัวที่คำว่า "Jetset" ที่รุ่นพี่คนนึงชื่อพี่ทอมเป็นคนแนะนำ แล้วก็พวกเราก็เพิ่ม -er เข้าไปให้มันเป็นนามธรรมมากขึ้น ซึ่งเดิมทีแล้ว Jetset เป็นคำสแลงหมายถึง กลุ่มคนที่มีรสนิยม เพอร์เฟค หรู เลิศ อะไรประมาณนั้น ซึ่งในความรู้สึกของพวกเราต้องการจะสื่อความหมายของคำว่า "Jetset'er" ไม่ใช่กลุ่มคนที่ไฮโซ แต่หมายถึง ความ Jetset ในทางดนตรี เป็นดนตรีในอุดมคติที่พวกเราต้องการไปให้ถึง และก็คิดว่านักดนตรีทุกคนก็คงอยากจะไปให้ถึงจุดนั้นเหมือนๆ กัน ได้ทำงานเพลงที่มีความสมบูรณ์แบบในแนวทางของตัวเอง"

เบส:วรพจน์ วิศรุตนาถ(หมู) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล
"...อินดี้ คำๆ นี้ถ้าจะมองให้มันเป็นเทนด์ก็ได้นะ เพราะว่าอะไรก็ตามที่ทำแล้วเป็นกระแสขึ้นมา คนก็จะมองว่า แบบนี้สิมันแนวนะ มันกำลังมานะ มันเป็นแฟชั่น เขาก็ตามกัน แต่คนที่เขาทำงานกันแบบอินดี้จริงๆ จะมีสักกี่คน... คำว่า อินดี้ ในความหมายของผม มันน่าจะอยู่ตรงที่การทำงานต้องเป็นอิสระ ต้องไม่มีใครมาตีกรอบให้ เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ..."

กลอง:จุมพฏ จรรยหาญ(เอ๊ด) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะพาณิชย์ศาสตร์ฯ สาขาการจัดการระบบสารสนเทศ
กับอัลบั้มที่ 2 Jetset'er "วันนี้เราโตขึ้น เราเริ่มที่จะมาคิดกันว่า เรามีทัศนคติกับชีวิตอย่างไร เรามีประสบการณ์อะไรกันมาบ้าง ลักษณะของแต่ละคนเป็นอย่างไร ในชุดใหม่นี้อาจจะมีคำถามกันมากขึ้น เราจึงเลือกที่จะเรียกมันว่า อัลบั้ม "นู้ด (NUDE)" คืออย่างไรเสียก่อนที่เราจะแก่กันไปกว่านี้เราจะเปิดเผยอะไรที่มันอยู่ข้างในของพวกเรา เพราะการเปลือยมันเปลือยได้หลายแง่ มันมีอะไรที่ลึกลงไปในไอเดีย ในบางมุมที่คนเขาอาจจะคิดไม่ถึง"

กีต้าร์/ร้องประสาน:ทฤษฎี ศรีม่วง(โอ) อายุ:25ปี การศึกษา:มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
"การทำเพลงกับค่ายเล็กในทุกวันนี้ มันมีปัญหาร้อยแปด คือกลุ่มคนที่คิดแบบเรา ผมเชื่อว่ายังคงมีอยู่เยอะ แต่ว่าที่สำคัญคือกลุ่มคนที่ฟังเองจะยอมรับได้ขนาดไหน และในอีกด้านหนึ่งต้องยอมรับว่าวิทยุเองก็ถูกบล๊อกด้วยค่ายเพลงใหญ่ด้วย แต่ถ้าจะบอกว่าวงการเพลงในปัจจุบันพัฒนามั้ย จากอดีตถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่าพัฒนาไปเยอะ เพียงแต่ว่า มันน่าจะพัฒนาด้วยสปีดที่เร็วกว่านี้ได้ เรื่องของการซื้อของเถื่อนก็ดี มันจะทำให้วงการเพลงบ้านเราจะแย่ลงเรื่อยๆ มันสวนทางกัน เพราะคนทำก็อยากทำงานดีๆ ออกมาเรื่อยๆ แต่กลุ่มคนฟังไม่ได้สนับสนุนคนทำงาน..."
เป้าหมายที่สำคัญและท้าทายกับก้าวที่สองของ Jetset'er ไม่ได้มองไปที่ยอดขาย แต่อยากให้คนฟังเปิดใจรับฟังพวกเค้า อยากให้เปิดใจรับฟังวงอื่นๆ ที่เขาทำเพลงที่ไม่เหมือนกับสิ่งที่คุณคุ้นเคย บางทีคุณอาจจะพบกับสิ่งที่คุณกำลังค้นหาอยู่ ซึ่งไม่ใช่อะไรที่มันวนๆ อยู่กับที่แบบ ที่คุณคุ้นเคย...

Read more

Jetset'er II


บันทึกส่วนตัวของ Jetset'er




แหล่งรวมพลคนรัก Jetset'er...ในนี้มีเรื่องราวของพวกเขามากมาย

“เจ็ตเซ็ตเตอร์” (JETSET’ER) ประเดิมเปิดตัวอัลบั้มชุด 2 “NUDE”















หลังจากที่หายไปนานเกือบ 1 ปีครึ่ง จนในวันนี้ทั้ง 4 หนุ่ม JETSET’ER ภายใต้สังกัด ZYD Records (ซิดเรคคอร์ด) ซึ่งประกอบด้วย ที-พิพิธพล ขำรัตน์ (ร้องนำ), โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง (กีต้าร์) ,หมู-วรพจน์ วิศรุทนาถ (เบส) ,และเอ็ดดี้-จุมพฎ จรรยหาญ (กลอง) ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับผลงานอัลบั้มใหม่ ชุดที่ 2 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ของวง JETSET’ER เรียกได้ว่าแรงกว่า อัลบั้มชุดเก่ามา โดยประเดิมเปิดตัวอัลบั้มชุดนี้ด้วยชื่อ NUDE (นู้ด) ซึ่งนำเสนอเพลงในแนว Soul Funk (โซล ฟั้งค์) ที่มีสัดส่วนของดนตรีที่หนักแน่นขึ้น มีกลิ่นอายของดนตรี FUNK และการนำเอาเครื่องดนตรีอื่นๆมาผสมผสาน เพื่อเน้นความแปลกใหม่ อาทิ แซกโซฦโฟน,ทรัมเป็ด,คีย์บอร์ด, เป็นต้น
ทางค่าย ZYD Records ตอกย้ำเอกลักษณ์วง JETSET’ER ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเลือกส่งเพลง “ฝ่าไฟแดง” ได้รับความนิยมจากผู้ฟังวิทยุ จนสามารถไต่อันดับชาร์ตเพลงของสถานีวิทยุคลื่น 91.5 Hotwave ได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์
ด้วยความไม่หยุดนิ่งในการพัฒนางานเพลงให้ดีขึ้น จึงทำให้เพลงในอัลบั้มนี้มีความโดดเด่นกว่าเดิม ในด้านดนตรีที่แปลกใหม่แนวคิดแตกต่าง วิธีการร้องที่พัฒนาขึ้น การอัดเสียงที่เน้นความแปลกใหม่และให้สีสัน แต่ต้องมีคุณภาพ และรวมถึงด้านภาพลักษณ์ของศิลปิน.
โดยในงานเปิดตัวอัลบั้ม NUDE : JETSET’ER ที่ทาง ZYD Records จัดขึ้น ทางสังกัดได้มีการเพิ่มสีสัน และความสนุกสนาน โดยส่งศิลปินน้องใหม่ Springs ภายใต้สังกัด ZYD Records ขึ้นเล่นเปิดให้ศิลปินรุ่นพี่ JETSET’ER โดยน้องใหม่ Springs จากค่าย ZYD Records จะมีอัลบั้มเปิดตัวให้ฟังกันในเดือนมกราคม 2007 นี้
JETSET’ER กลับมาตามคำสัญญา พร้อมเพลงดีๆ ให้ทุกคนได้ฟังกันอีกครั้ง แล้วรอร่วมพิสูจน์ความ NUDE จาก JETSET’ER เต็มรูปแบบในวันนี้ทั่วประเทศ

Read more